Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบบทบาทที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครอง จังหวัดบุรีรัมย์ แบ่งออกเป็น 6 ด้านคือ ด้านการปกครอง ด้านศาสนศึกษา ด้านการเผยแผ่ ด้านสาธารณูปการ ด้านศึกษาสงเคราะห์ และสาธารณสงเคราะห์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พระสังฆาธิการ จำนวน 286 รูป ซึ่งได้มาจากการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของทาโร ยามาเน่ (Taro yamane) แล้วทำการสุ่มกลุ่มย่อยแบบชั้นภูมิโดยให้กระจายตามวัดตามสัดส่วนโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น .9728 สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ ร้อยละ,ค่าเฉลี่ย,ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (ANOVA) เปรียเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีการของ เชฟเฟ่ (Scheffe Method) กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความคิดเห็นของพระสังฆาธิการที่มีต่อบทบาทที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครอง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของพระสังฆาธิการที่มีต่อบทบาทที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าเมื่อจำแนกตามอายุพรรษา ระดับการศึกษา และตำแหน่งปกครองสงฆ์ โดยรวมไม่แตกต่างกันทางสถิติ 3. ปัญหาที่มีต่อบทบาทที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครอง จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่การควบคุม กำกับ ดูแลพระภิกษุและสามเณรให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยไม่จริงจัง การจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณรไม่ทั่วถึง การจัดกิจกรรมวันสำคํญทางพระพุทธศาสนาไม่สม่ำเสมอ การแต่งตั้งคณะกรรมการดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินกิจการภายในวัดไม่เป็นรูปธรรมชัดเจน การส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเกี่ยวกับหลักธรรมในวันอาทิตย์ไม่ต่อเนื่อง และการจัดบริเวณวัดยังไม่เป็นแบบอย่างที่ดี