Abstract:
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัญหาในการจัดการศึกษาพิเศษรูปแบบการเรียน
ร่วมและเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาในการจัดการศึกษาพิเศษรูปแบบเรียนร่วม ตามความ
คิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
ประชากร ได้แก่ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วม ปีการศึกษา 2550 สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 รวมจำนวนทั้งสิ้น 419 คน จำแนกเป็นผู้บริหารโรงเรียน
จำนวน 15 คน ครูผู้สอนการศึกษาพิเศษที่ผ่านการอบรม จำนวน 15 คนและครูผู้สอนที่ไม่ผ่านการ
อบรมในโรงเรียนเรียนร่วม จำนวน 389 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ครูผู้สอนในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วมที่
ไม่ผ่านการอบรม กำหนดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของทาโร ยามาเน่ จำนวน 198 คน ผู้บริหาร
โรงเรียนและครูผู้สอนการศึกษาพิเศษที่ผ่านการอบรม ผู้วิจัยทำการศึกษาทั้งประชากร เครื่องมือที่ใช้
ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 50 ข้อ ซึ่งประกอบ ด้วย แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วน
ประมาณค่า และแบบคำถามปลายเปิด แบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่น 0.981 สถิติที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานโดย t-test
การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัญหาการจัดการศึกษาพิเศษรูปแบบการเรียนร่วมในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วม สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 ตามความคิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียน โดยภาพรวมอยู่
ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านสภาพแวดล้อมและด้านการประสานงานอยู่ในระดับ
มาก ด้านการบริหารจัดการและด้านการจัดการเรียนการสอนมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วม ที่มีต่อปัญหาจัด
การศึกษาพิเศษรูปแบบการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตาม
บุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนแกนนำเรียนร่วมโดยภาพรวมพบว่า มีปัญหาแตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ความคิดเห็นต่อปัญหาจัดการศึกษาพิเศษรูปแบบการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ทุกด้านแตกต่างกันอย่าง
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05