Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาพฤติกรรม ความรู้ และทัศนคติในการทำงานด้านความปลอดภัยของคนงานก่อสร้าง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 2. เพื่อเปรียบเทียบลักษณะส่วนบุคลที่มีผลต่อพฤติกรรม ความรู้ และทัศนคติในการทำงานด้านความปลอดภัยของคนงานก่อสร้าง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัยกับคนงานก่อสร้าง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 300 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ผลข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติของคนงานก่อสร้าง ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้วิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างลักษณะส่วนบุคคลกับพฤติกรรม ความรู้ และทัศนคติ ได้แก่ t-test และ F-test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 194 คน อายุ 26 – 30 ปี สถานภาพสมรส ระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น ตำแหน่งงานส่วนใหญ่เป็นช่างปูน มีประสบการณ์ในการทำงานก่อสร้าง 1-5 ปี และรายได้เฉลี่ยส่วนใหญ่มีรายได้ 10,000 – 15,000 บาท
2. พฤติกรรมในการทำงานด้านความปลอดภัยของคนงานในภาพรวมอยู่ในระดับดี
3. ความรู้ในการทำงานด้านความปลอดภัยของคนงานก่อสร้างในภาพรวมอยู่ในระดับดี
4. ทัศนคติในการทำงานด้านความปลอดภัยของคนงานในภาพรวมอยู่ในระดับดี
5. ความสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล เมื่อจำแนกตามเพศ พบว่าเพศที่แตกต่างกันมีผลต่อคนงานก่อสร้างด้านพฤติกรรม และทัศนคติด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ส่วนใหญ่ไม่แตกต่าง แต่ความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้างแตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
เมื่อจำแนกตามอายุ พบว่าอายุที่แตกต่างกันมีผลต่อคนงานก่อสร้างด้านพฤติกรรม และความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ส่วนใหญ่แตกต่าง แต่ความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้างไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่าระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีผลต่อคนงานก่อสร้างด้านพฤติกรรม และความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ส่วนใหญ่แตกต่าง แต่ความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้างไม่แตกต่างที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
เมื่อจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่าประสบการณ์แตกต่างกันมีผลต่อคนงานก่อสร้างด้านพฤติกรรม และความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ส่วนใหญ่แตกต่าง แต่ความรู้ด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้างไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05